อยากอยู่อย่างใหญ่
คำกล่าวนี้ออกจะท้าทายใครๆ
บ้างไม่มากก็น้อย…ทว่า ณ มุมเล็กๆ มุมหนึ่งบนโลกใบนี้ ยังคงมีผู้ชายคนหนึ่ง
ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึง “สมบัติ”
ที่มีค่าเหนือทรัพย์สินเงินทองคือความมุ่งมั่นและพยายาม
โชคชะตาของคนที่เกิดมาพร้อมกับความจน ใช่ว่าประตูแห่งความร่ำรวย
จะถูกปิดตายลงไปพร้อมกับความจนนั้น เพราะหากใครที่มีใจเป็นนักสู้
ถีบชีวิตตนเองที่จมอยู่ในห้วงเหวความยากจน มุ่งแสวงหาอาชีพตนเองแล้วต่อสู้
ไปจนสู่ความสำเร็จโดยไม่ย่อท้อสิ้นหวังไปก่อนความสำเร็จหรือเส้นชัยนั้นก็คง
ไม่ไกลเกิน
ด.ช. ชัย ชัยปรีชา คือคนๆ นั้น
เป็นคนเมืองชาละวัน จากเด็กชายบ้านนอกการศึกษาแค่ ป.6 ทั้งๆ
ที่ชัยอยากเรียนต่อใจจะขาด แต่ขาดแค่ความพร้อมของครอบครัว
คำสอนของปู่ที่พูดถืงแต่อนาคตที่ดีขัดกับคำพูดของพ่อ
ที่ไม่ให้ชัยเรียนต่อมัธยม แม่สงสารชัยแต่ก็ขัดพ่อไม่ได้
พ่อเพียงคิดแค่จะให้ชัยออกมาช่วยกันทำนาทำสวน เก็บดอกเก็บผลไปขาย
หรือรับจ้างทำทุกอย่าง ตามอย่างพวกพี่ๆ ที่มาช่วยกันทำมาหากิน
ชัยปาใบสมัครสอบเรียนตอนชั้นมอ 1 ทิ้งไป
หลังจากที่พ่อไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี่
แม้คำพูดของครูพิษณุที่เคยบอกกับพ่อว่า
ชัยเป็นเด็กที่เรียนเก่งที่สุดในห้องก็ตาม ภาพเก่าๆ ของชัยในวัยเด็กปอ 6
ตัดสลับกับความเสียใจเสมอ ชัยมักจะอยู่กับก๊วนเพื่อนแสบๆในห้องอย่าง
ไอ้บัติ ไอ้โรจน์ ไอ้เหลียว และส้มโอ ชัยถูกยกย่องเป็นพี่ใหญ่ในกลุ่มเพื่อน
ก็แค่เพื่อนๆ ชอบแอบมาขอข้าวแม่ตนเองกินเป็นประจำโดยที่ไม่เคยเรียกชวน
รวมถึงวีรกรรมเสี่ยงคุกกับลุงแหย่ภารโรงปากหมา ที่ใส่คลุมแต่เสื้อสูทรเก่าๆ
ครึ่งท่อนไว้เท่ห์ๆ ตลอดเวลา และมักจะได้คำตอบเท่ห์ๆ ว่า
“คนรวยเท่านั้นถึงจะได้ใส่โว้ย ใครใส่แล้วมันจะดูดีมีชาติตระกูล”
ภารโรงแหย่คือเบื้องหลังการรับหวยเถื่อน
ที่ชัยหวังกินค่าวิ่งจดหวยเพียงน้อยนิด
แต่ปัญหากลับใหญ่ยิ่งเหลือเกิน……..วันๆ
ของชัยหมดไปกับการเด็ดถั่วเขียวในไร่กับแม่และน้องโชติที่ยังเล็กๆ
จนมือถลอกไหม้ เสร็จจากไร่ถั่ว ก้อพาควายไปอาบน้ำ ไปกินหญ้า
กับเหล่าผองเพื่อน ตื่นเช้ามาก้อหาบน้ำ เลี้ยงหมู เก็บผักบุ้ง
แกะเม็ดข้าวโพด ทุกวันของชัยผ่านไปแบบจำเจ ซ้ำซาก
มีเพียงส้มโอเพื่อนสาวที่คอยพูดให้กำลังใจ
แบบเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างไปตามวัย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น